5 แลนด์มาร์คสวิตเซอร์แลนด์


1. Jungfraujoch

พิกัดสวยบนความสูง 3,466 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปกันด้วยจ้า โดยรถไฟสายยุงเฟราขบวนนี้จะวิ่งจากเมืองอินเทอร์ลาเคินมายังสถานียุงเฟรายอร์ค ซึ่งสามารถเดินเท้าต่อขึ้นไปยังยอดเขายุงเฟราได้ แถมที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของหอดูดาวสฟิงซ์ ซึ่งเป็นหอดูดาวที่สูงที่สุดในโลกด้วยนะ นอกจากนั้นยังมีถ้ำน้ำแข็งให้ได้เดินเล่นรับความเย็นกันแบบสะใจ ยอดเขายุงเฟรานั้นได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกไปแล้วเรียบร้อยจ้ะ และเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่น่าพลาดเมื่อมาถึงสวิสเลยเชียว

 
2. Matterhorn

แมทเทอร์ฮอร์นนั้นนับเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดของโลก ตั้งอยู่ในเมืองเซอร์แม็ทท์ซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของเหล่าคนชอบสกีหิมะ นอกจากนั้นยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่อากาศดีที่สุดในโลก เพราะเป็นเมืองปลอดรถยนต์แบบ 100% ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นนั้นเป็นต้นแบบของโลโก้ช็อกโกแลต Toblerone และบริษัทผลิตภาพยนตร์ Paramount Pictures อันโด่งดัง จะชมความสวยของยอดเขานี้จากในเมืองเซอร์แม็ทท์ก็ได้ หรือจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมความสวยของยอดเขากันแบบใกล้ๆ ก็ดี ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แนะนำว่าควรต้องไปเช็คอิน

 
3. Interlaken

อินเทอร์ลาเคินนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองสองทะเลสาบ เพราะตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz แถมยังล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเกือบทุกด้าน ตัวเมืองนี้นั้นถือว่าเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ที่พัก และร้านอาหาร ไฮไลท์ในเมืองนี้คือการไปเยือนจุดชมวิว Harder Kulm หรือจะเลือกไปล่องเรือชมความสวยของทะเลสาบกันแบบสุดชิลล์ก็ยังได้ นับเป็นแลนด์มาร์คสุดสโลว์ไลฟ์ที่ไม่ควรพลาดไปเช็คอินกันเลยละ

 
4. Chapel Bridge

สะพานชาเปลแห่งนี้ นับเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนศตวรรษที่ 14 และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญทั้งของเมืองลูเซิร์นและประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย สะพานนี้ถูกตั้งชื่อตามโบสถ์เซนต์ชาเปลที่อยู่ไม่ไกลกัน บนตัวสะพานมีภาพวาดเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองลูเซิร์นตั้งแต่ในราวศตวรรษที่ 17 กลางสะพานมีหอคอยกลางน้ำซึ่งในยุคโบราณเคยถูกใช้เป็นคุกและห้องทรมานนักโทษมานานหลายศตวรรษ นับว่าเป็นอีกพิกัดที่ต้องแวะมาเช็คอิน

 
5. Lauterbrunnen

หมู่บ้านซึ่งมีวิวสุดอัศจรรย์เหมือนสวรรค์บนโลกมนุษย์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองอินเทอร์ลาเคินซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความงดงาม หมู่บ้านนี้ตั้งกระจายตัวอยู่กลางวงล้อมของขุนเขาเหมือนหมู่บ้านในเทพนิยาย เพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยน้ำตกสูงที่ไหลลงจากหน้าผา สวยขนาดนี้จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่จึงเป็นแหล่งเช็คอินที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย แถมที่นี่ยังเป็นทางผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเทือกเขาแอลป์อีกด้วยจ้า ไม่มาคือพลาดจริงๆ